บริษัท เอนเดฟเวอร์ จำกัด
Endeavour Co., Ltd.
เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร 0745555004781
Tel: 099-369-5393
Email: contact@babyfirst.co.th

รองเท้าเด็ก สำคัญแค่ไหน เมื่อพูดถึงรองเท้าเด็ก คุณพ่อ-คุณแม่ส่วนใหญ่มักคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญ แต่ความจริงแล้ว เมื่อเด็กเริ่มโตและเริ่มวิ่งได้ ท่าทางการเดินและวิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม การหารองเท้าที่ดีและเหมาะกับเด็กเป็นสิ่งหนึ่งที่คุณพ่อ-คุณแม่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้เด็กมีพัฒนาการที่ดี ขาและเท้าของเด็กเล็กจะยังประกอบด้วยกระดูกอ่อน โดยจะค่อยๆ พัฒนาเป็นกระดูกที่แข็งแรงเมื่ออายุ 17 ปี กระดูกและข้อต่อของเท้าเด็ก (ตั้งแต่แรกเกิดจนประมาณ 13 ปี) จะยังคงสามารถปรับได้ และอาจจะผิดรูปได้ถ้าเกิดอุบัติเหตุ หรือสวมใส่รองเท้าที่มีเหมาะสม โดยเด็กแรกเกิดจะมีลักษณะขาและเท้าที่โค้ง เนื่องจากอยู่ในครรภ์มาหลายเดือน อย่างไรก็ตามขาและเท้าจะค่อยๆ ยืดตรงขึ้นภายใน 2-3ปี คุณพ่อ-คุณแม่ควรหมั่นตรวจดูขนาดของถุงเท้าและรองเท้าอยู่เสมอ ไม่ให้แน่นเกินไป เพื่อให้ให้เท้าเด็กได้มีพัฒนาที่ดีไม่ผิดรูป และควรตรวจสอบด้านในของถุงเท้าไม่ให้มีด้ายยาว ที่อาจมัดนิ้วเท้าของเด็กได้ เมื่อเด็กเริ่มหัดลุกขึ้นเดินด้วยตนเอง อาจจะยังเดินไม่ตรง เนื่องจากฝาเท้าที่ยังไม่แบนราบ หรือการทรงตัวที่ยังไม่ดีพอ ผู้เชี่ยวชาญด้านเท้า แนะนำให้สวมรองเท้าเด็ก หลังจากเริ่มเดินได้ประมาณ 1 เดือน การเดินด้วยเท้าเปล่านั่น เหมาะสำหรับเท้าที่กระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรงและมีพัฒนาการของกระดูกเท้าที่ดีแล้วเท่านั้น เด็กสามารถเดินด้วยเท้าเปล่าได้บนพื้นที่นิ่ม เช่น พื้นหญ้า หรือ พื้นทราย ส่วนบนพื้นผิวอื่นๆ การใส่รองเท้าจะช่วยเรื่องพัฒนาการของเท้า ไปพร้อมๆ กับพัฒนาการด้านการเดินของเด็ก การเลือกรองเท้าที่เหมาะสมกับเด็กเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดย 98% ของเด็กเล็ก เกิดมาพร้อมกับสภาพเท้าที่สมบูรณ์ แต่มีเด็กเพียง 38% ที่โตมาพร้อมกับสุขภาพเท้าที่สมบูรณ์ วิธีเลือกรองเท้าที่เหมาะกับเด็ก - ควรเป็นรองเท้าที่หุ้มส้น (ไม่ใช่รองเท้าแตะ) เพราะรองเท้าแบบสวมจะช่วยรองรับข้อเท้า และช่วยเรื่องการเดินได้อย่างดี รองเท้าแตะไม่เหมาะกับเด็ก เนื่องจากไม่สามารถรองรับการเคลื่อนไหวของข้อเท้าได้ เด็กไม่ควรสวมรองเท้าส้นสูง เนื่องจากส้นสูงจะทำให้เอ็นร้อยหวายมีพัฒนาการที่ผิดปกติ ควรจะสวมรองเท้าที่เป็นแบบราบเท้านั้น เพื่อให้เท้ามีพัฒนาการที่ดี - ควรเลือกรองเท้าที่สวมใส่ง่าย เพราะจะทำให้เด็กไม่รู้สึกหงุดหงิดเวลาสวมใส่รองเท้า ซึ่งเป็นต้นเหตุให้ไม่อยากใส่รองเท้าในเวลาต่อมา - ควรเป็นรองเท้าที่ไม่ลื่น ผลิตจากวัสดุที่ยืดหยุ่นได้ดีรองรับกับการเคลื่อนไหวของเด็ก พื้นรองเท้าไม่ควรบางมากเพื่อป้องกันเท้าเด็ก แต่ก็ไม่ควรแข็งมากเพราะจะทำให้เด็กไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ - ขนาดของรองเท้า ควรใหญ่กว่าเท้าเด็กประมาณ 1-1.5 ซม. เพื่อให้เท้าเด็ก สามารถขยับได้ขณะเคลื่อนไหว และเพื่อให้สามารถรองรับเท้าที่เพิ่มขนาดขึ้นได้ แต่ก็ไม่ควรหลวมเกินไป เพราะอาจทำให้ได้รับอุบัติเหตุได้ คุณพ่อ-คุณแม่ควรจะตรวจขนาดรองเท้ากับเท้าเด็กอย่างสม่ำเสมอ เพราะลูกน้อยของคุณไม่สามารถบอกได้ว่ารองเท้าแคบเกินไปแล้ว นักวิชาการด้านเท้า แนะนำให้ตรวจสอบขนาดเท้าทุกๆ เดือน เพราะเท้าเด็กอาจโตขึ้นอย่างรวดเร็ว วิธีการตรวจสอบขนาดรองเท้าเด็กแบบง่าย ๆ คือ ลองใช้นิ้วกดบริเวณปลายรองเท้าของเด็ก หากกดแล้วเจอนิ้วเท้า ก็แสดงว่ารองเท้าคับเกินไป เท้าเด็กไม่สามารถยืดหยุ่นดีแล้ว สำหรับเด็กที่อายุ 3 ปีขึ้นไป เท้าจะขยายประมาณเดือนละ 1 มิลลิเมตร หรือขนาดรองเท้าเด็กควรใหญ่ขึ้น 1 ขนาดต่อปี ส่วนเด็กที่อายุน้อยกว่า 3 ปี เท้าจะขยายมากกว่า 1 มิลลิเมตรต่อเดือน หรือขนาดรองเท้าเด็ก จะใหญ่ขึ้น 2 ขนาดต่อปี
Reference: Photo from bestbabyadvice.wordpress.com/
จำหน่ายผลิตภัณฑ์ของใช้เด็ก รถเข็นเด็ก ของเล่นเด็ก เตียงเด็ก ขวดนม ที่มีคุณภาพเพื่อลูกรักของคุณในราคาประหยัด |